อัปเกรดบ้านสุดอัจฉริยะของคุณด้วย SONOFF และ Matter

Posted by Marisa TAWEECHOKCHANCHAI on

matter
Matter คืออะไร?
Matter เป็นโปรเจคที่ริเริ่มจากการร่วมมือกันของ Amazon, Apple, Google และ ZigBee Alliance โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาและส่งเสริมโปรโตคอลการเชื่อมต่อรูปแบบใหม่ที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการพัฒนาของผู้ผลิตอุปกรณ์เกี่ยวกับบ้านอัจฉริยะและปรับปรุงความเข้ากันได้ระหว่างผลิตภัณฑ์ ทำให้ผู้ใช้สามารถควบคุมอุปกรณ์ของแบรนด์ต่างๆ และทำให้อุปกรณ์เหล่านั้นทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น
Matter มุ่งเน้นไปที่การสร้างมาตรฐานที่เปิดกว้างและปลอดภัยสำหรับอุปกรณ์สำหรับบ้านอัจฉริยะ โดยตระหนักถึงการเชื่อมโยงกันระหว่างอุปกรณ์ของแบรนด์ต่างๆ มากขึ้น ช่วยให้คุณสามารถใช้งาน จัดการ และควบคุม อุปกรณ์สำหรับบ้านอัจริยะจากแบรนด์ต่าง ๆ ได้โดยไร้กังวลเกี่ยวกับการต้องใช้งานหลากหลายแอปพลิเคชันเพื่อควบคุมอุปกรณ์ทั้งหมด เพียงใช้งาน Matter คุณก็จะสามารถปรับการตั้งค่าบ้านอัจฉริยะและควบคุมทุกอย่างได้จากอินเทอร์เฟซเดียว
ด้วยเทคโนโลยี IP (Internet Protocol) และใช้โปรโตคอลการสื่อสารมาตรฐาน เช่น Wi-Fi, บลูทูธ และ Thread ที่ Matter นำมาใช้เพื่อให้อุปกรณ์ต่าง ๆ สามารถทำงานร่วมกันได้ ช่วยให้ผู้บริโภคมีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการเลือกใช้อุปกรณ์สำหรับบ้านอัจฉริยะได้ตามต้องการ และใช้เพียงแอปเดียวในการควบคุมอุปกรณ์เหล่านั้น นอกจากนี้ยังมอบแนวทางที่เป็นมาตรฐานสำหรับมาตรการรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวเพื่อให้ผู้ใช้งานมั่นใจได้ว่าการสื่อสารและการโต้ตอบระหว่างอุปกรณ์นั้นปลอดภัยและเชื่อถือได้
Matter ได้แนะนำแนวคิดเกี่ยวกับตัวควบคุมว่าอาจจะเป็นอุปกรณ์แบบกายภาพ เช่น ลำโพงอัจฉริยะ สมาร์ทโฟน ฯลฯ หรืออาจจะเป็นแอปพลิเคชัน เช่น แอป smart home เป็นต้น ซึ่งคุณสามารถมีตัวควบคุมได้ 1 ตัว หรืออาจจะมากกว่า 1 ตัวขึ้นไปก็ได้ โดยที่ตัวควบคุมแบบเดี่ยวอาจจะเป็น HomeKit ก็ได้ หรือแบบที่มีตัวควบคุมหลายตัวอาจเป็น HomeKit และแอพเนทีฟจากผู้ขาย หรือ HomeKit, แอพเนทีฟ และ Alexa ก็ได้ หากคุณต้องการ
โดยที่ตัวควบคุมจะทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานหลักและตัวจัดการอุปกรณ์และบริการทั้งหมดภายในเครือข่าย Matter ตลอดจนเป็นจุดศูนย์กลางสำหรับการสื่อสารทั้งหมดบนเครือข่าย Matter ช่วยให้สามารถค้นหาและกำหนดค่าอุปกรณ์ ช่วยในการควบคุมและตรวจสอบอุปกรณ์ ช่วยด้านการจัดการความปลอดภัย การรวมบริการคลาวด์ รวมไปถึงความเข้ากันได้กับเครือข่ายและแพลตฟอร์มของบ้านอัจฉริยะอื่นๆ ซึ่งโดยสรุปก็คือตัวควบคุมนี้จะมีบทบาทสำคัญในการรับรองความปลอดภัย ความสามารถในการทำงานร่วมกัน และความสะดวกในการใช้งานอุปกรณ์และเครือข่ายบ้านอัจฉริยะที่ทำงานบน Matter
Matter สามารถเชื่อมต่อกับเทคโนโลยีอื่นๆ ได้ เช่น Zigbee โดยใช้ smart home bridges เพื่อโต้ตอบกับอุปกรณ์โดยการใช้โปรโตคอลอื่นๆ เหล่านั้น ซึ่งหมายความว่าหากผู้ใช้ต้องการรวมอุปกรณ์ Zigbee เข้ากับระบบสมาร์ทโฮมที่ใช้ Matter พวกเขาจะต้องมีอุปกรณ์ bridges ที่รองรับทั้งโปรโตคอล Zigbee และ Matter เพื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์ Zigbee กับเครือข่าย Matter อุปกรณ์ bridges จะทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการแปลการสื่อสารระหว่างอุปกรณ์ Zigbee และเครือข่าย Matter ซึ่งช่วยให้อุปกรณ์ Zigbee สามารถรวมเข้ากับเครือข่าย Matter ได้ และทำให้สามารถสื่อสารกับอุปกรณ์อื่นๆ บนเครือข่ายได้
Matter ช่วยให้ผู้ผลิตอุปกรณ์สามารถสร้างอุปกรณ์ที่เข้ากันได้กับบริการบ้านอัจฉริยะและบริการเสียง เช่น Alexa ของ Amazon, Siri ของ Apple, Assistant ของ Google และอื่นๆ ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น โดยข้อมูลสเปกแรกของโปรโตคอล Matter ที่เปิดเผยออกมาคือจะทำงานบนเลเยอร์เครือข่าย Wi-Fi และ Thread และใช้ Bluetooth Low Energy ในการทดสอบการใช้งาน
matter
แน่นอนว่า WiFi และ Zigbee อยู่ในโปรโตคอลชั้นการขนส่ง โดยอาศัยฮาร์ดแวร์อัจฉริยะในการแลกเปลี่ยนข้อมูลแบบไร้สายเพื่อทำงานร่วมกัน ซึ่ง Matter เป็นโปรโตคอลชั้นแอปพลิเคชันที่สูงกว่าโปรโตคอลชั้นการขนส่ง และยังถือเป็นมาตรฐานในการตรวจสอบสิทธิ์ได้อีกด้วย
ยกตัวอย่างเช่น เลเยอร์มาตรฐานแอปพลิเคชันของ Apple คือ Homekit โดยมาตรฐานนี้จะระบุว่าอุปกรณ์ใดบ้างที่สามารถเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มของ Apple ได้ ขณะเดียวกันก็จะสามารถควบคุมหลอดไฟอัจฉริยะได้ด้วยคำสั่งต่างๆ เช่น เปิด/ปิด การปรับความสว่างและสี โดยที่ไม่สนใจว่าแสงนั้นจะเข้าถึงการใช้งานผ่าน Zigbee หรือ Bluetooth
ซึ่งสามารถสรุปได้ว่าผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองโดยโปรโตคอล Matter จะสามารถเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์ม smart home ใดก็ได้ โดยที่จะไม่คำนึงถึงยี่ห้อและโปรโตคอลในการรับส่งข้อมูล
matter
ผลกระทบของโปรโตคอล Matter ต่ออุตสาหกรรมสมาร์ทโฮมมีความสำคัญมาก ผู้ใช้งานจะมีตัวเลือกที่หลากหลายมากขึ้นเมื่อพูดถึงอุปกรณ์เกี่ยวกับบ้านอัจฉริยะ รวมถึงจะสามารถเข้าถึงแบรนด์และเทคโนโลยีต่าง ๆ ได้โดยไม่ถูกจำกัดอีกต่อไป นอกจากนี้ยังจะส่งเสริมนวัตกรรมในการพัฒนาผลิตภัณฑ์อุปกรณ์เกี่ยวกับบ้านอัจฉริยะ เนื่องจากผู้ผลิตสามารถมุ่งเน้นที่การสร้างคุณสมบัติใหม่และนวัตกรรมได้มากขึ้น โดยไร้ความกังวลเกี่ยวกับปัญหาในเรื่องของความเข้ากันได้ของอุปกรณ์
โดยสรุปคือ โปรโตคอล Matter นั้นก่อให้เกิดประโยชน์เป็นอย่างมากต่ออุตสาหกรรมบ้านอัจฉริยะ โดยจะเป็นมาตรฐานสำหรับการสื่อสารและการเชื่อมต่อของอุปกรณ์ โดยมีการให้สัญญาว่าจะนำความสะดวกสบายอีกระดับและความสามารถในการทำงานร่วมกันมาสู่บ้านอัจฉริยะ ช่วยทำให้ชีวิตประจำวันของเราง่ายขึ้นและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
matter
แล้วแผนสำหรับผลิตภัณฑ์ของ SONOFF ที่สามารถใช้งานร่วมกัน Matter เป็นอย่างไร?
SONOFF ในฐานะหนึ่งในแบรนด์แรกๆ ที่เข้าร่วมพันธมิตร Matter จึงไม่เคยหยุดนิ่งในการพัฒนาอุปกรณ์ที่สามารถเข้ากันได้กับ Matter เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้นให้กับผู้บริโภค ทั้งนี้มีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในขั้นตอนการทดสอบทั้งหมดเพื่อให้แน่ใจว่าอุปกรณ์เป็นไปตามข้อกำหนดของ Matter และสามารถทำงานร่วมกันได้ ด้วยเหตุนี้คุณจึงสามารถเพลิดเพลินกับการเชื่อมต่อและการควบคุมทุกอุปกรณ์ในบ้านอัจฉริยะของคุณได้อยย่างราบรื่น
ซึ่งทาง SONOFF กำลังพัฒนาซีรีส์สวิตช์ระยะไกลที่เข้ากันได้กับ Matter และจะมีอุปกรณ์ใหม่ที่เข้ากันได้กับ Matter ออกมาเร็วๆ นี้ กำลังดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มอุปกรณ์ที่รองรับ Matter ให้กับกลุ่มผลิตภัณฑ์ของ SONOFF เพื่อให้คุณสามารถสร้างประสบการณ์บ้านอัจฉริยะที่เชื่อมต่อและเป็นส่วนตัวได้อย่างแท้จริง

Share this post



← Older Post Newer Post →